ยอดเจดีย์ยักษ์หักครึ่งใจกลางเมืองเชียงใหม่ ชมเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ไหว้เสาอินทขิล
แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ : วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ ที่นิยมเรียกสั้นๆว่า วัดเจดีย์หลวง เป็นโบราณสถานที่นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่มักไม่พลาดที่จะมาชม เนื่องด้วยในวัดมีโบราณสถานที่เป็นพระเจดีย์หลวงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่โดดเด่นใจกลางเมืองตามคติความเชื่อเดิมเรื่องจักรวาลวิทยาของชาวลัวะที่ใช้อินทขีลเป็นสัญลักษณ์ ก่อนที่ใช้พระธาตุเจดีย์หลวงเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางจักรวาลตามความรุ่งเรืองพระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา นอกจากนั้นพระเจดีย์หลวงยังมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญคือเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตมามากกว่า 80 ปี
ในยามค่ำคืน หากได้มาเดินถนนคนเดินท่าแพอยู่แล้วในวันอาทิตย์ ลองแวะเข้าไปชมความงดงามของวัดเจดีย์หลวงที่เปิดไฟส่องไปที่โบราณสถานต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามยามค่ำคืนอีกด้วย
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเรียกอื่นๆ : | วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร | ||||||||||||||||||
ชื่อภาษาอังกฤษ : | Wat Chedi Luang | ||||||||||||||||||
วันเปิดให้บริการ : |
|
||||||||||||||||||
เวลาเปิด-ปิด : | 08:00 – 17:00 แต่มีการเปิดไฟให้เยี่ยมชมบริเวณรอบๆในตอนค่ำ | ||||||||||||||||||
ค่าเข้าชม : | คนไทย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย | ||||||||||||||||||
อำเภอ : | เมืองเชียงใหม่ (Muang Chiang Mai) | ||||||||||||||||||
จังหวัด : | เชียงใหม่ (Chiang Mai) | ||||||||||||||||||
แผนที่ : | พิกัด 18.786981,98.986947 |
พระเจดีย์หลวงเดิมเรียกว่า”กู่หลวง” แรกสร้างเป็นเจดีย์เล็ก ๆ ทรงสี่เหลี่ยมในสมัยพญาแสนเมืองมา เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่้พระราชบิดา ต่อมาในสมัย”พระเจ้าติโลกราช” แห่งราชวงศ์มังราย โปรดให้สร้างเสริมเจดีย์ใหม่ โดยขยายฐานให้กว้างออกถึง 56 เมตร สูง 95 เมตร เป็นทรงเจดีย์แบบพุกาม มีรูปปั้นช้างค้ำรายล้อมรอบองค์เจดีย์ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่มุขด้านตะวันออกของเจดีย์เป็นเวลานานถึง 80 ปี ต่อมามีฝนตกหนัก และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เป็นสาเหตุให้ส่วนยอดของเจดีย์หักพังเหลือเพียงครึ่งองค์ เกิดรอยร้าวที่องค์พระเจดีย์สุดที่จะแก้ไขได้ จึงถูกทิ้งร้างมานานถึง 445 ต่อมาปี ก่อนที่ในสมัยปัจจุบันกรมศิลปกรได้ทำการบูรณะจนเป็นดังปัจจุบันนี้ |
พระวิหารหลวงวิหารหลวงของวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร นี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ ภายในพระวิหารหลวง มีพระอัฎฐารสเป็นพระประธาน เป็นพระปางห้ามญาติ หล่อด้วยทองสำริด พระนางติโลกะจุดา ราชมารดาของพญาติโลกราช โปรดฯให้หล่อขึ้น ในปี พ.ศ. 1954 |
เสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองตั้งอยู่กลางวิหารจตุรมุขศิลปะแบบล้านนาประยุกต์ เป็นเสาอิฐก่อปูนตัดกระจกสี บนเสาอินทขิลมีพระพุทธรูปทองสำริดปางรำพึง ประดิษฐานอยู่ภายในบุษบก เสาอินทขิลที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดเจดีย์หลวงมีบันทึกไว้ว่าพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ทรงสร้างเสาอินทขิล เมื่อครั้งสถาปนา “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” เดิมอยู่ที่วัดสะดือเมืองหรือวัดอินทขิล กลางเวียงเชียงใหม่ (ปัจจุบันคือหอประติโลกราช ข้างศาลากลางหลังเก่า) ครั้ง”พระเจ้ากาวิละ”ครองเมืองเชียงใหม่ ได้ย้ายมาประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง โดยบูรณะขึ้นใหม่เป็นเสาปูน พร้อมกับทำการบวงสรวงเป็นพระเพณีสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน เสาอินทขิลประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12 ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า เข้าอินทขิล เป็นการฉลองหลักเมือง คำบูชาเสาอินทขิล ส่วนตำนานการสร้างเสาอินทขิลเดิมนั้นเริ่มจากชาวลัวะได้ตั้งชุมชนหรือเวียงนพบุรีขึ้นที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง เชิงดอยสุเทพ พร้อมกันนั้นได้ตั้งเสาอินทขิลขึ้นเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง พร้อมกับมอบกุมภัณฑ์สองตนทำหน้าที่รักษาเวียงให้มั่นคง ตามคำแนะนำของฤาษี ชาวเมืองต้องทำพิธีบูชาเสาอินทขิลและเลี้ยงกุมภัณฑ์ หากปล่อยปละละเลยไม่บูชาบ้านเมืองจะวินาศ |
วิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่ติดบต้นยางใหญ่โบราณ ด้านหน้าประตูวิหารเป็นพญานาคมองไปทางเจดีย์หลวง |
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว / จากตัวเมืองเชียงใหม่ วิ่งมาตามถนนพระปกเกล้า ทางเข้าวัดเจดีย์หลวงวรวิหารจะอยู่ติดกับวัดพันเตา |
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ / เดินทางโดยการใช้รถโดยสารเชียงใหม่ (รถแดง) บอกว่าลงที่วัดเจดีย์หลวง |
การติดต่อ
ที่อยู่ : | 103 ถนน พระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200 | ||
ข้อมูลอ้างอิง
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : | เวบไซท์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , www.dhammathai.org , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย | ||
ภาพถ่ายโดย : | Mahapunt Photography | ||
เรียบเรียงโดย : | www.zthailand.com |
เนื้อหาและข้อความในบทความนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้มาจากข้อมูลที่ได้สำรวจจากสถานที่จริง และ/หรือ จากแหล่งข้อมูลอ้างอิงต่างๆ ด้วยเนื้อหาและข้อความถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ข้อมูลบางส่วนจึงอาจมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ได้อัพเดตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน หากท่านต้องการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องกว่าสามารถส่งข้อมูลพร้อมระบุสถานที่และลิงค์มาได้ที่ contact@zthailand.com เพื่อให้ทีมงานได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องยิ่งขึ้น หากท่านใดต้องการนำข้อมูลไปอ้างถึงบนเวบไซท์หรือสื่ออื่น กรุณาระบุที่มาและลิงค์กลับมาที่เวบไซท์ www.zthailand.com ในขณะที่ภาพถ่ายทั้งหมดยังถือเป็น ลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายภาพ โดยผู้ถ่ายภาพอนุญาตให้ใช้เฉพาะภายในเวบไซท์ www.zthailand.com เท่านั้น ห้ามมิให้ละเมิด ทำซ้ำ หรือดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น