พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของชนชาติจีน ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันมีเทคนิคการจัดแสดง แสง สี เสียง ที่ทันสมัย ตั้งอยู่ในอาคารรูปมังกรขนาดใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็นห้องๆถึง 20 ห้อง การเข้าเยี่ยมชมจะแบ่งเป็นรอบๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำเยี่ยมชมทีละห้องๆ เริ่มตั้งแต่ ห้องฉายภาพยนตร์แสดงประวัติคร่าวๆถึงที่มาของพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ห้องถัดมาเป็นห้องกำเนิดโลกและกำเนิดมนุษย์ซึ่งเป็นเทพนิยายที่เล่าสืบต่อๆกันมา จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของตำนานต่างๆ จึงเข้าสู่ยุคราชวงศ์ของจีน เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย-ซาง ราชวงศ์โจว ราชวงศ์ฉิน (ยุคจิ๋นซีฮ่องเต้) ราชวงศ์ฮั่น ช่วงยุคสามก๊ก (จัดแสดงตอนโจโฉแตกทัพเรือ) ราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง (ยุควัดเส้าหลินและบูเช็คเทียน) ราชวงศ์ซ่งเหนือ (ยุคเปาบุ้นจิ้น) ราชวงศ์ซ่งใต้ (ยุคงักฮุย) ราชวงศ์หยวน (ยุคมองโกลและมาร์โคโปโล) ราชวงศ์หมิง (ยุคเจิ้งเหอ) ราชวงศ์หมิง(ยุคเครื่องลายคราม) ราชวงศ์ชิง(ยุคโรงงิ้ว-โรงฝิ่น และจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย) ยุคสาธารณรัฐ (ยุคเหมาเจ๋อตุง) และจบด้วยประวัติการสร้างพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นปฎิมากรรมสลักหินแบบนูนต่ำ สันนิษฐานว่าเป็นรูปพระนารายณ์สี่กร มีอายุประมาณ 1,300-1,400 ปี เป็นที่เคารพสักการะของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ประมาณ 150 ปีมาแล้ว คาดว่าชาวจีนเป็นผู้พบ “เจ้าพ่อหลักเมือง” จมโคลนอยู่ริมคลอง จึงได้อัญเชิญขึ้นพร้อมกับสร้างศาลให้เป็นที่ประทับ มีเฮียกงหรือกรรมการจีนเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา

ในสมัยก่อนนั้นมีคำทักว่าห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพก็ได้เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ต่อมาจึงมีผู้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองสุพรรณบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงเสด็จมาและพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ปรับปรุงตัวศาลขึ้นเพิ่มเติม

มาในภายหลังศาลหลักเมืองได้รับการปรับปรุงในปี พ.ศ.2480 และในช่วงปัจจุบัน นายบรรหาร ศิลปอาชาได้ปรับปรุงศาลให้กว้างขึ้น สร้างอาคารแบบจีนถวาย และขยายพื้นที่รอบศาลให้กว้างขึ้น นอกจากนั้นยังทำการก่อสร้างมังกรพันเสาสูง 22 เมตรที่บริเวณปากทางเข้าศาล มีความสวยงามมาก

หมู่บ้านมังกรสวรรค์

หมู่บ้านมังกรสวรรค์ เป็นส่วนขยายต่อของพื้นที่อุทยานมังกรสวรรค์ โดยปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวที่มาอุทยานมังกรสวรรค์ได้เพลิดเพลินไปกับร้านค้าต่างๆ ที่ตกแต่งให้เหมือนกับย่านชอบปิ้งแบบ walking street ของจีน อาคารของร้านค้าในหมู่บ้านมังกรสวรรค์จึงเป็นแบบจีนทั้งหมด โดยเชิญร้านค้าร้านอาหารดังๆของเมืองสุพรรณมาเปิดที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์แห่งนี้ อาทิ ก๋วยจั๊บเก้าห้อง ก๋วยเตี๋ยวนายเท้า พ.ศ. 2501 ฯ นอกจากนั้นแล้วภายในหมู่บ้านมังกรสวรรค์ยังมีร้านต่างๆอาทิ โรงนวด โรงหนังสี่มิติ โรงเตี๊ยม บริการถ่ายรูปชุดจีน ให้บริการอีกมากมาย

สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือภายในหมู่บ้านมังกรสวรรค์ยังมีหอคอยชมวิวสูงหลายชั้นที่สามารถขึ้นไปชมวิวของอุทยานมังกรสวรรค์ได้ทั่ว (เหมาะสำหรับช่วงเช้า – มีลิฟท์บริการ) เสาสลักหิน 3 มิติ ที่นำมาจากเมืองจีนหลายต้น และกังหันน้ำที่มีลักษณะคล้ายจำลองมาจากเมืองลี่เจียง เส้นทางแชงกรีล่าที่เราคุ้นเคยกันดี หมู่บ้านมังกรสวรรค์จึงเป็นหมู่บ้านจีนขนาดย่อมๆเลยทีเดียว แนะนำให้ลองมาช่วงเย็นที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์จะเปิดไฟไปทั่ว มีความสวยงามไปอีกแบบ

สถานที่สำคัญอื่นๆในอุทยานมังกรสวรรค์

ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆได้แก่

หอระฆังสัมฤทธิ์ เป็นระฆังสัมฤิทธิ์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูง 3.47 เมตร ปากระฆังกว้าง 2.14 เมตร น้ำหนัก 3.28 ตัน สามารถตีระฆังได้โดยบรจาคตามศรัทธา

ศาลากลางน้ำเจ็ดชั้น เป็นศาลาสูง 27 เมตร มี 7 ชั้น สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพยามเย็นได้เป็นอย่างดี

ศาลาเทียนอันเหมิน ใช้เป็นสถานที่จัดประชุมฯและงานต่างๆ