วัดอุโบสถหินอ่อนที่งดงาม ทั่วโลกต่างขนานนาม Marble Temple
แหล่งท่องเที่ยวกรุงเทพฯ : วัดเบญจมบพิตร
วัดเบญจมบพิตรตั้งอยู่บริเวณถนนนครปฐมติดคลองเปรมประชากร เป็นอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร เดิมเป็นวัดโบราณ มีการปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้พระราชทานนามใหม่ว่า ‘วัดเบญจบพิตร’ หมายความว่า วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ‘วัดเบญจมบพิตร’ อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และเพื่อแสดงลำดับรัชกาลในมหาจักรีบรมราชวงศ์ ต่อมา พระองค์ได้ถวายที่ดินซึ่งพระองค์ขนานนามว่า ดุสิตวนาราม ให้เป็นที่วิสุงคามสีมาเพิ่มเติมแก่วัดเบญจมบพิตร และโปรดฯ ให้เรียกนามรวมกันว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และได้มีสร้อยนามต่อท้ายด้วย “ราชวรวิหาร” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติต่างนิยมมาเยี่ยมเยียนวัดเบญจมบพิตรอย่างไม่ขาดสาย รู้จักกันดีในนาม Marble Temple ด้านในมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายได้แก่ พระอุโบสถทรงจัตุรมุขที่ปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆทั่วโลก พระพุทธชินราชจำลองพระประธาน พระที่นั่งทรงธรรม พระที่นั่งทรงผนวช ศาลาสี่สมเด็จ พิพิธภัณฑ์พระอนุสรณ์ อ.ป.ก. หอระฆังบวรวงศ์
ข้อมูลทั่วไป
![]() |
|||||||||||||||||||
![]() |
ชื่อเรียกอื่นๆ : | ![]() |
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร | ||||||||||||||||
![]() |
ชื่อภาษาอังกฤษ : | ![]() |
Wat Benchamabopitr , Marble Temple | ||||||||||||||||
![]() |
วันเปิดให้บริการ : | ![]() |
|
||||||||||||||||
![]() |
เวลาเปิด-ปิด : | ![]() |
08:30 – 17:00 | ||||||||||||||||
![]() |
ค่าเข้าชม : | ![]() |
|
||||||||||||||||
![]() |
ช่วงเวลาสำหรับถ่ายภาพ : | ![]() |
|
||||||||||||||||
![]() |
เขต : | ![]() |
ดุสิต (Dusit) | ||||||||||||||||
![]() |
จังหวัด : | ![]() |
กรุงเทพฯ (Bangkok) | ||||||||||||||||
![]() |
แผนที่ : | ![]() |
พิกัด 13.766282,100.5146646 |
![]() |
พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรพระอุโบสถของวัดเบญจมบพิตรเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ปรากฏตามสื่อต่างๆมากมาย ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักวัดเบญจมบพิตรในนาม Marble Temple หรือวัดหินอ่อน ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระพุทธชินราชเป็นรั้วหินอ่อนกลมสีเขียวหยก พระแท่นรัตนบัลลังก์พระพุทธชินราช ผนังเสมอกรอบหน้าต่าง และพื้นพระอุโบสถ ประดับหินอ่อนหลากสี ณ พระแท่นรัตนบัลลังก์นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้บรรจุพระสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ผู้ทรงสถาปนาวัด ในคราวที่อัญเชิญพระพุทธชินราชขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อัทรงปิติโสมนัสอย่างยิ่ง จึง “ทรงเปลื้องสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นพรัตน์ราชวราภรณ์ ซึ่งกำลังทรงอยู่นั้น ถวายพระพุทธชินราชเป็นพุทธบูชา” เมื่อเชิญพระพุทธชินราชขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับราชตระกูล ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้อย่างดี และอัญเชิญมาคล้องถวายที่พระหัตถ์พระพุทธชินราช ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ทุกปี |
![]() |
พระที่นั่งทรงธรรมเป็นตึก 2 ชั้น “สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี” ทรงสร้างอุทิศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ใช้เป็นที่ประทับแรมเวลาทรงธรรมรักษาอุโบสถศีล ปัจจุบันคงใช้ในกิจกรรมของวัด และตั้งพระศพหรือศพบุคคลสำคัญ |
![]() |
พระที่นั่งทรงผนวชเมื่อเริ่มการสถาปนาวัดเบญจมบพิตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้รื้อพระที่นั่งทรงผนวชองค์เดิม จากพุทธรัตนสถาน ที่สวนศิลาลัย ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับของพระองค์ในคราวทรงผนวช ออกไปปลูกที่วัดเบญจมบพิตร เพื่อเป็นกุฏิเจ้าอาวาส โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ เป็นหมู่กุฏิประกอบด้วย “พระที่นั่งทรงผนวช” อยู่ด้านทิศเหนือ “พระกุฏิ” อยู่ด้านทิศใต้ กับกุฏิ 2 ห้อง 2 หลัง อยู่ด้านตะวันออกและตะวันตก มีหอเสวยกลาง มีลานหินอ่อนโดยรอบ ภายในพระที่นั่งทรงผนวช มีพระแท่นบรรทม พระบรมรูปเมื่อทรงผนวช พระบรมรูปสลักหินอ่อน พระพุทธรูป พระเสลี่ยงน้อย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถวายเพื่อเป็นธรรมาสน์แสดงธรรมและแสดงพระปาติโมกข์ครั้งแรกในวัดเบญจมบพิตร เครื่องลายครามต่าง ๆ |
![]() |
พระวิหารสมเด็จ(ส.ผ.)เป็นตึกจตุรมุข 2 ชั้น ข้างบันไดขึ้นด้านหน้าหล่อราชสีห์ประดับ 2 ตัว ประตูหน้าต่างที่เขียนลายไทยรดน้ำทั้งชั้นล่างและชั้นบน หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่าง ปั้นลายก้านขดประกอบตราพระนามาภิไธยย่อ “ส.ผ.” (เสาวภาผ่องศรี) ลงรักปิดทองประดับกระจก พระวิหารสมเด็จนี้ “สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ” ทรงสร้างตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะให้เป็น “หอธรรม” หรือ “หอสมุด” ประจำวัด ชื่อว่า “หอพุทธสาสนสังคหะ” ต่อมา โปรดเกล้าฯให้รวมกิจการหอธรรมเข้ากับหอพระสมุดวชิรญาณ หอพระมณเฑียรธรรม เป็นหอพระสมุดสำหรับพระนคร คงเหลือสิ่งของและคัมภีร์พระไตรปิฎกหรับวัดเท่านั้น หอพุทธสาสนสังคหะ จึงกลายเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และตู้พระธรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยมีพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานที่พระวิหารสมเด็จ ได้แก่ พระฝาง และพระพุทธนรสีห์จำลอง ซึ่งยังมีการถวายพุ่มพรรษาสักการะในเทศกาลเข้าพรรษา ปัจจุบันพระวิหารสมเด็จเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สาขาวัดเบญจมบพิตร |
![]() |
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว / จากถนนพญาไทวิ่งมาตามถนนศรีอยุธยา เมื่อถึงแยกวัดเบญฯ ตรงผ่านคลองมา ทางซ้ายมือจะมีถนนเลี้ยวเข้าไปจอดรถที่บริเวณนี้ |
![]() |
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ /
|
การติดต่อ
![]() |
|||
![]() |
ที่อยู่ : | ![]() |
69 ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 |
![]() |
การติดต่อ : | ![]() |
02 282 9311 |
![]() |
Official Website : | ![]() |
www.watbencha.net |
ข้อมูลอ้างอิง
![]() |
|||
![]() |
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : | ![]() |
เวบไซท์วัดเบญจมบพิตร , wikipedia |
![]() |
ภาพถ่ายโดย : | ![]() |
Mahapunt Photography |
![]() |
เรียบเรียงโดย : | ![]() |
www.zthailand.com |
เนื้อหาและข้อความในบทความนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้มาจากข้อมูลที่ได้สำรวจจากสถานที่จริง และ/หรือ จากแหล่งข้อมูลอ้างอิงต่างๆ ด้วยเนื้อหาและข้อความถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ข้อมูลบางส่วนจึงอาจมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ได้อัพเดตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน หากท่านต้องการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องกว่าสามารถส่งข้อมูลพร้อมระบุสถานที่และลิงค์มาได้ที่ contact@zthailand.com เพื่อให้ทีมงานได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องยิ่งขึ้น หากท่านใดต้องการนำข้อมูลไปอ้างถึงบนเวบไซท์หรือสื่ออื่น กรุณาระบุที่มาและลิงค์กลับมาที่เวบไซท์ www.zthailand.com ในขณะที่ภาพถ่ายทั้งหมดยังถือเป็น ลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายภาพ โดยผู้ถ่ายภาพอนุญาตให้ใช้เฉพาะภายในเวบไซท์ www.zthailand.com เท่านั้น ห้ามมิให้ละเมิด ทำซ้ำ หรือดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น