โลมาสีชมพู หาดขนอม นครศรีธรรมราช

ล่องเรือทะเลขนอมกลางฝูงปลาโลมา หยอกล้อกับโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด

แหล่งท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช : โลมาสีชมพู หาดขนอม

การได้มาเที่ยวชมทะเลขนอมเพื่อชมปลาโลมาสีชมพูถือเป็นประสบการณ์หาที่อื่นไม่ได้ในประเทศไทย ที่หาดขนอมนี้เป็นแหล่งของปลาโลมาสีชมพูที่อาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 50 ตัว โลมาสีชมพู หรือ ที่เรียกกันว่าโลมาขาวเทา หรือ โลมาหลังโหนก อาศัยอยู่เฉพาะบริเวณปากแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ อย่างเช่นที่ที่บริเวณแหลมประทับและอ่าวแขวงเภา หาดขนอม เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ จำพวก  ปลากด กุ้ง ปลาหมึก  ลักษณะเด่นของโลมาสีชมพูคือ การมีสีชมพูเฉพาะตัว ในตอนเกิดมีสีเทาเหมือนโลมาทั่วไป แต่เมื่ออายุมากสีขาวเผือกหรือสีชมพูจะเกิดขึ้นจากสีของหลอดเลือดที่ช่วยไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป จึงทำให้เห็นเป็นสีชมพู

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมปลาโลมานิยมออกเรือที่แหลมประทับในตอนเช้า โดยจะมีโอกาสพบทั้งโลมาสีเทาและโลมาสีชมพู แหวกว่ายเข้ามาปรากฏโฉมให้เห็นในระยะใกล้ๆ เรียกเสียงเฮให้กับนักท่องเที่ยวให้กับความน่ารักของฝูงโลมาเหล่านี้ โลมาสีชมพูเหล่านี้มีความคุ้นเคยกับคน โดยจะติดตามเรือหางยาวเวลาติดเครื่องเรือและจะว่ายน้ำเข้ามาหาให้เห็นได้อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันโลมาเหล่านี้บางตัวมีความเชื่องมากเนื่องจากชาวประมงและนักท่องเที่ยวนิยมให้อาหารปลาโลมา แต่ก็มีผลเสียคือมีผลต่อระบบนิเวศแลกกับการได้เห็นฝูงโลมาอย่างใกล้ชิด

การได้มาพบเห็นปลาโลมาสีชมพูเหล่านี้มักมีโอกาสพบเห็นได้ค่อนข้างมาก ยกเว้นช่วงที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ นักท่องเที่ยวที่เหมาเรือเที่ยว มักจะควบการดูปลาโลมาสีชมพูรวมไปกับการไปเยือนบ่อน้ำจืดที่อยู่กลางทะเล ตั้งอยู่บนเกาะนุ้ยไม่ไกลจากฝั่ง ที่นี่คือต้นกำเนิดตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และแวะชมหินพับผ้าหรือ Pancake Rock หินรูปร่างประหลาดที่มีลักษณะคล้ายผ้าพับกัน ใช้เวลาเที่ยวรวมกัยประมาณ 2 ช.ม. ควรเตรียมหมวกและครีมกันแดดเพราะเรือบางลำไม่มีที่บังแดดให้

หมายเหตุ : การมาเที่ยวชมปลาโลมาสีชมพูควรตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ เนื่องจากปลาโลมาเหล่านี้เป็นปลาที่อยู่ในธรรมชาติ การที่นักท่องเที่ยวซื้ออาหารปลาที่ขายบริเวณท่าเรือ ทำให้ปลาเปลี่ยนนิสัยการหากินได้ ในสมัยก่อนปลาโลมาเหล่านี้จะหากินกันเป็นฝูง มีการรวมฝูงเพื่อต้อนปลาด้วยการใข้เสียงสะท้อนโซนาร์ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาหาดขนอมจะมีโอกาสเห็นปลาโลมาเหล่านี้หากินด้วยวิธีนี้น้อยมาก จึงไม่มีโอกาสเห็นปลาโลมากระโดดพุ่งทะยานสู่เหนือน้ำสักเท่าไหร่ ปัจจุบันที่โลมานั้นเชื่องกับเสียงเรือด้วยสาเหตุที่ชาวประมงเวลาเข้าฝั่งจะนำเศษปลาที่ติดอวนมาโยนเลี้ยงปลาโลมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมมักคาดหวังจะเห็นปลาโลมาสีชมพูอย่างใกล้ชิด จึงซื้อเหยื่อปลาเล็กๆอย่างปลาจวด ปลาแมว ที่ขายให้แก่นักท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือ มีการเป็นห่วงถึงการติดเชื้อของปลาหากปลาโลมาเหล่านี้ได้ทานไปเพราะปลาเหล่านี้ไม่ได้เป็นปลาที่ติดมาสดๆจากอวน สิ่งที่ตามมาคือการทำให้ความสามารถในการหากินตามธรรมชาติของปลาโลมาสีชมพูได้เสียไป ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมอย่างไม่รู้ตัว

ข้อมูลทั่วไป

	ชื่อภาษาอังกฤษ :		The Pink Dolphins of Khanom
	ค่าเข้าชม :		ค่าเรือที่แหลมประทับลำละ 1,000 บาท / ค่าเรือที่อ่าวแขวงเภาลำละ 1,200 บาทนั่งได้ประมาณ 8 คน
	ฤดูกาลท่องเที่ยว :
			ควรหลีกเลี่ยงการออกเรือช่วงมรสุมอ่าวไทย
	ช่วงเวลาสำหรับถ่ายภาพ :
			การถ่ายภาพปลาโลมาควรมาแต่ตอนเช้า ไม่ควรเกิน 08:00 เนื่องจากจะเป็นช่วงที่ปลาหากินหลังจากที่ชาวประมงเข้าฝั่ง ช่วงบ่ายมีโอกาสที่เกิดฝนตกได้มากกว่า
	อำเภอ :		ขนอม (Khanom)
	จังหวัด :		นครศรีธรรมราช (Nakhon Si Thammarat)
	แผนที่ :		พิกัดท่าเรือแหลมประทับ 9.312172,99.80332 พิกัดท่าเรือหาดแขวงเภา 9.282018,99.845074

การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว / ทางไปท่าเรือแหลมประทับ จากนครศรีธรรมราชมาตามถนนสาย 401 สุราษฏร์ธานี-นครศรีธรรมราช เลี้ยวเข้าถนนสาย 4014 เข้าอำเภอขนอม จากตัวเมืองขนอมจะผ่านสะพานข้ามคลองขุนนม ไปตามถนนสาย 4142 ไปตามป้ายบอกทางก็จะถึงจุดลงเรือแหลมประทับ ห่างจากตัวเมืองขนอมประมาณ 16 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชประมาณ 120 ก.ม. จากสุราษฏร์ธานีมาตามถนนสาย 401 สุราษฏร์ธานี-นครศรีธรรมราช เลี้ยวซ้ายไปตามทางสาย 4142 ทางเดียวกับไปท่าเรือดอนสัก เมื่อเลยท่าเรือดอนสัก เมื่อเข้าสู่จังหวัดนครศรีธรรมราชให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 4044 ไปตามเส้นทางก็จะถึงท่าเรือแหลมประทับ

การติดต่อ

	การติดต่อ :		ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแหลมประทับ  087 282 7761

ข้อมูลอ้างอิง

	ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :		สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ , Wikipedia
	ภาพถ่ายโดย :		Mahapunt Photography
	เรียบเรียงโดย :		www.zthailand.com

เนื้อหาและข้อความในบทความนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้มาจากข้อมูลที่ได้สำรวจจากสถานที่จริง และ/หรือ จากแหล่งข้อมูลอ้างอิงต่างๆ ด้วยเนื้อหาและข้อความถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ข้อมูลบางส่วนจึงอาจมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ได้อัพเดตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน หากท่านต้องการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องกว่าสามารถส่งข้อมูลพร้อมระบุสถานที่และลิงค์มาได้ที่ contact@zthailand.com เพื่อให้ทีมงานได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องยิ่งขึ้น หากท่านใดต้องการนำข้อมูลไปอ้างถึงบนเวบไซท์หรือสื่ออื่น กรุณาระบุที่มาและลิงค์กลับมาที่เวบไซท์  www.zthailand.com  ในขณะที่ภาพถ่ายทั้งหมดยังถือเป็น ลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายภาพ โดยผู้ถ่ายภาพอนุญาตให้ใช้เฉพาะภายในเวบไซท์ www.zthailand.com เท่านั้น ห้ามมิให้ละเมิด ทำซ้ำ หรือดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น