วัดในวรรณคดีเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน นมัสการหลวงพ่อโต อายุไม่น้อยกว่า 1,000 ปี

แหล่งท่องเที่ยวสุพรรณบุรี : วัดป่าเลไลย์

วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร หรือที่นิยมเรียกกันว่า วัดป่าเลไลย์ ตั้งอยู่ทางฝั่งด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณ หรือ แม่น้ำท่าจีน ประดิษฐานหลวงพ่อโตพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนิยมเข้ามากราบไหว้อย่างเนืองแน่นทุกวัน ซึ่งชื่อวัดป่าเลไลย์นั้นตั้งตามพระพุทธรูปปางเลไลยก์ของหลวงพ่อโตนั่นเอว วัดป่าเลไลย์นั้นเป็นที่คุ้นเคยแก่คนทั่วไปเนื่องจากชื่อวัดป่าเลไลย์ปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ตามท้องเรื่องขุนแผนเมื่อเยาว์วัยได้มาบวชเรียนที่วัดป่าเลไลย์แห่งนี้ในชื่อว่าเณรแก้ว เป็นศิษย์ของสมภารมี ตามที่พรรณนาไว้ใน เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน นอกจากนั้นยังมี ขรัวตาจู เป็นตัวละครสำคัญจากวัดด้วย

นอกจากนั้นวัดป่าเลไลย์ยังเป็นวัดที่สำคัญ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังทรงผนวชอยู่ จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์ทั้งพระวิหารและองค์พระพุทธรูป ที่หน้าบันของวิหารวัดป่าเลไลย์มีเครื่องหมายพระมหามงกุฏอยู่ระหว่างฉัตรคู่ ทุกๆปีที่วัดป่าเลไลย์ จะมีงานเทศกาลสมโภช และนมัสการหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ 2 ครั้ง คือ ในวันขึ้น 5-9 ค่ำ เดือน 5 และเดือน 12

 

 

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อเรียกอื่นๆ : วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร (ชื่อเรียกที่ถูกต้อง)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Wat Pa Lelai Worawihan (Pa Lelai Worawihan Temple)
วันเปิดให้บริการ :
อำเภอ : เมืองสุพรรณบุรี  (Muang Suphan Buri)
จังหวัด : สุพรรณบุรี (Suphan Buri)
แผนที่ : พิกัด 14.47445,100.09493

 

นมัสการหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์

ภายในวิหารของวัดป่าเลไลย์ประดิษฐาน พระปางปาลิไลยกะ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า หลวงพ่อโต มีอายุจนถึงทุกวันนี้ ระหว่าง 650 – 1,300 ปี สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยทวารวดีตอนต้นจนถึงก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์เป็นพระก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 23.47 เมตร มีพุทธลักษณะมีเค้าโครงเป็นศิลปะแบบอู่ทอง เดิมเป็นพระพุทธรูปนั่งในคฤหไม่มีวิหาร องค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง พระหัตถ์ขวาหัก ช่างได้สร้างวิหารครอบต่อจากคฤห โดยให้ผนังวิหารชิดกับพระหัตถ์ขวา ส่วนทางพระหัตถ์ซ้ายให้มีที่ว่าง ด้านหลังองค์พระสร้างชิดกับผนังวิหารทำให้แข็งแรง นับเป็นความชาญฉลาดของช่างเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังมีผู้กล่าวสันนิษฐานว่า เดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง พระกรทั้งสองข้างหักหายไป ผู้ที่มาบูรณใหม่ได้ทำเป็นปางป่าเลไลยก์ตามที่นิยมกันในสมัยหลัง ลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุข้างซ้าย พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุข้างขวาในท่าทรงรับของถวาย  ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์ทั้งพระวิหารและองค์พระพุทธรูป ดังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์จึงเคยได้รับการบูรณะมาแล้วถึง 4 ครั้ง ปัจจุบันมีประชาชนทั้งใกล้ไกลมากราบไหว้พลวงพ่อโตกันมากมายในแต่ละวัน

สิ่งที่น่าสนใจรอบวิหารหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์มีดังนี้ หน้าวิหารมีระฆังศักดิ์สิทธิ์สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 มีขนาดกว้าง 1.5 เมตร สูง 1.75 เมตร มีความเชื่อว่าหากข้าราชการคนใดอยากโยกย้ายหรือเลื่อนตำแหน่ง หรือประชาชนที่อยากก้าวหน้า ให้เคาะระฆัง 5 ครั้งแล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง ภายนอกรอบๆวิหารหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์มีทางเดินประกอบจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผน โดยคุณ เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย เป็นจิตรกรผู้วาดร่วมกับจิตรกรสมทบท่านอื่นๆ

 

วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

บ้านขุนช้าง

บ้านของขุนช้างมาจากเรื่องอิงประวัติศาสตร์ของไทย  ”ขุนช้าง ขุนแผน” เป็นเรือนทรงไทยแบบสมัยโบราณ ตัวบ้านตรงกลางในปัจจุบันนี้ทำเหมือนหอฉันบนกุฏิพระ สองแถบด้านข้างจัดแสดงของเก่าแก่ไว้ อาทิ ถ้วยชามจานช้อนเคลือบ แจกันเคลือบสมัยต่างๆ พระพุทธรูป ฯ รอบๆผนังมีภาพวาดเรื่องราวของขุนช้างขุนแผน

 

pa-lelai-worawihan-temple-suphan-buri 04

วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

 

 

   

การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว /  จากถนนเส้นบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงสาย 340) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมาลัยแมน ตรงมาราว 4.5 กิโลเมตร จะผ่านแยกหอนาฬิกา ศาลหลักเมืองทางด้านขวา ตรงไปอีก วัดป่าเลไลย์จะอยู่ทางขวามือ ที่จอดรถกว้างขวาง

 

การติดต่อ

ที่อยู่ : วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภเเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
การติดต่อ : 035 545113
Official Website : www.watpasuphan.com
Social  Media : Facebook , Twitter

 

ข้อมูลอ้างอิง

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : เวบไซท์วัดป่าเลไลย์
ภาพถ่ายโดย : Mahapunt Photography
เรียบเรียงโดย : www.zthailand.com

 

 

 

เนื้อหาและข้อความในบทความนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้มาจากข้อมูลที่ได้สำรวจจากสถานที่จริง และ/หรือ จากแหล่งข้อมูลอ้างอิงต่างๆ ด้วยเนื้อหาและข้อความถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ ข้อมูลบางส่วนจึงอาจมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ได้อัพเดตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน หากท่านต้องการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องกว่าสามารถส่งข้อมูลพร้อมระบุสถานที่และลิงค์มาได้ที่ contact@zthailand.com เพื่อให้ทีมงานได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องยิ่งขึ้น หากท่านใดต้องการนำข้อมูลไปอ้างถึงบนเวบไซท์หรือสื่ออื่น กรุณาระบุที่มาและลิงค์กลับมาที่เวบไซท์  www.zthailand.com  ในขณะที่ภาพถ่ายทั้งหมดยังถือเป็น ลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายภาพ โดยผู้ถ่ายภาพอนุญาตให้ใช้เฉพาะภายในเวบไซท์ www.zthailand.com เท่านั้น ห้ามมิให้ละเมิด ทำซ้ำ หรือดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น